โครงสร้างไวยากรณ์ภายในสำนวน โดยแบ่งเป็น
1.1 สำนวนวลี
มักเป็น惯用语และ成语 และมีส่วนน้อยเป็น
俗语 เช่น
วลีประธาน-ภาคแสดง เช่น脸皮-厚 (หน้า-หนา :
หน้าด้าน) วลีกริยา-กรรม เช่น颠倒-是非 (กลับ-ถูกผิด :
กลับตาลปัตร)
1.2 สำนวนประโยค
ส่วนใหญ่เป็น谚语และ俗语 รองลงมาเป็น成语และ惯用语ได้แก่
1) ประโยคเดี่ยว
เช่น有志者事-竟成 (ผู้มุ่งมั่นการงาน-สำเร็จ)
เป็นประโยคบทภาคแสดงประธาน-กริยา纸老虎 (เสือกระดาษ)
เป็นประโยคเดี่ยวแบบประธาน-ภาคแสดงไม่สมบูรณ์
2) ประโยคคู่ แยกได้
2 แบบ
2.1) ประโยคคู่ขนาน
ใช้ประโยคที่มีโครงสร้างไวยากรณ์เหมือนกันแสดงความสัมพันธ์แบบคู่ขนาน เช่น刀子嘴, 豆腐心 (ปากมีด ใจเต้าหู้
: ปากร้ายใจดี)
2.2) ประโยคไม่คู่ขนาน
ใช้ประโยคที่มีโครงสร้างไวยากรณ์ต่างกันแสดงความสัมพันธ์แบบต่างๆ เช่น 宁走一步远, 不走一步险 (ขอเดินทางไกล ดีกว่าเดินทางอันตราย)
แสดงความสัมพันธ์แบบตัวเลือก立竿见影 (พอตั้งราวก็เห็นเงา :
เห็นผลทันที) แสดงความสัมพันธ์แบบเหตุผล
3) ประโยครวม
มีส่วนประกอบมากกว่าสองประโยครวมกัน พบน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็น 谚语เช่น 茶壶里煮饺子, 肚里有货, 嘴里倒不出来 (ต้มเกี๊ยวในกาน้ำชา
มีสินค้าในตับ เทออกจากปากไม่ได้ : คนมีความรู้มาก แต่ปากหนัก หรือถ่ายทอดไม่เป็น)
หน้าที่ทางไวยากรณ์ของสำนวน
ในทางภาษาศาสตร์แต่ละสำนวนถือเป็นหนึ่งหน่วยคำ
เมื่อใช้สื่อสารจะทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบต่างๆ
ในประโยคเช่นเดียวกับหน่วยคำอิสระทั่วไป ได้แก่
1) เป็นประโยค เช่น船小好调头 (เรือเล็กหันหัวง่าย
: หน่วยงานเล็กบริหารปรับเปลี่ยนง่าย)
2) เป็นอนุประโยค
เช่น 驴唇不对马嘴, 哪里好装配呢?ปากลาไม่ตรงปากม้า
(ไม่ตรงหรือไม่สอดคล้องกัน) ประกอบกันได้ที่ไหนล่ะ?
3) เป็นส่วนประกอบประโยค
เช่น บทประธาน 干打雷不下雨是没有什么作用的。ฟ้าร้องแต่ไร้ฝน
(พูดแต่ไม่ทำ) ไม่มีประโยชน์อันใด บทกริยา เช่น 这里新建的工厂鳞次栉比。โรงงานสร้างใหม่ที่นี่ตั้งเรียงรายกันอย่างกับเกล็ดปลาซี่หวี
(จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ)
สำนวนที่มีลักษณะไวยากรณ์แบบพิเศษ ส่วนใหญ่เป็น 惯用语 โครงสร้างแบบกริยา+กรรม
สามารถแทรกคำหรือวลีระหว่างกริยาและกรรมได้ เช่น敲边鼓 (เคาะขอบกลอง :
คอยพูดสนับสนุนหรือคอยช่วยอยู่ข้างๆ) แทรกวลี了一阵子เป็น 敲 了一阵子 边鼓
(คอยช่วยอยู่ข้างๆสักพักหนึ่งแล้ว)
นอกจากนี้ยังสามารถสลับลำดับคำกริยาและกรรมได้ เช่น开夜车 (ขับรถค่ำ : โหมงานกลางคืน) สลับคำเป็น 夜车 开得更晚了 (รถค่ำ
ขับจนยิ่งดึกแล้ว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น